กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 ... 8 9 [10]
91
ลงประกาศฟรี / motor expo: เลกซัส Lexus-UX 300h F Sport-ปี 2024
« กระทู้ล่าสุด โดย siritidaphon เมื่อ 31 สิงหาคม 2024, 17:18:15 pm »
motor expo: เลกซัส Lexus-UX 300h F Sport-ปี 2024
3,300,000 บาท 

เลกซัส Lexus-UX 300h F Sport-ปี 2024
Lexus UX 300h F Sport ยนตรกรรม Luxury compact crossover สุดหรู โดดเด่นด้วยการออกเเบบภายนอกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เส้นสายที่เฉียบคม ให้ความรู้สึกปราดเปรียว เร้าใจ

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์          Lexus
   รุ่น               เลกซัส Lexus-UX 300h F Sport-ปี 2024
   ประเภทรถ      รถอเนกประสงค์ SUV, รถไฮบริด
   ปีที่เปิดตัว        2024
   ราคา             3,300,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
มูนรูฟ
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว (with memory + BSM)
ไฟตัดหมอก (หน้า พร้อมไฟส่องมุมหน้ารถ)
ไฟหน้า (ระบบทำความสะอาดไฟหน้า,ระบบปรับองศาของไฟส่องสว่างอัจฉริยะ,ไฟหน้าแบบปรับองศาการส่องสว่างสูง-ต่ำอัตโนมัติ,ระบบทำความสะอาดไฟหน้า)
ราวหลังคา
ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต (แบบแปรผัน Adaptive Variable Suspension (AVS))
ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบพิเศษ (อัตโนมัติ)
ไฟหน้า LED (3-LED)
ขนาดยางหน้า-หลัง (225/50R18)
ไฟ Daytime Running Lights
ล้ออัลลอย (18 นิ้ว)

   ภายใน
พวงมาลัยหุ้มหนัง
พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้ (,เข้า-ออกได้ ไฟฟ้า)
กระจกมองหลังตัดแสง
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (ECO / Normal/ Sport/ sport+ และ Customize)
อุปกรณ์วัดความเร็วสะท้อนกระจก Head Up Display
พวงมาลัยไฟฟ้า

สเปค
   เครื่องยนต์
2.0-liter L-4  16-Valve, DOHC,VVT-iE (intake), VVT-i (exhaust) กำลัง 180 แรงม้า แรงบิด 188 นิวตันเมตร /มอเตอร์ไฟฟ้า Synchronous alternating current motor (Permanent magnet type) 83 แรงม้า ให้กำลังรวมทั้ระบบ 196, ความเร็วสูงสุด 177 กม/ชม, อัตราเร่ง 0 - 100 กม/ชม ใน 8.1 วินาที, อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 23.81 กม/ลิตร, ค่าเฉลี่ยมลพิษ CO2 96 กรัม/กม และ มาตรฐานการปล่อยมลพิษ EURO 6

   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)           1,987 CC
   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)        150 แรงม้า
   ระบบเกียร์                          เกียร์อัตโนมัติ
   รูปแบบเกียร์                        E-CVT
   ระบบเบรค ABS                    มี
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง            เบนซิน 95, เบนซิน 91, แก๊สโซฮอล์ 95 (E10), ไฮบริด
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)           43 ลิตร
   ระบบจ่ายน้ำมัน                   EFI (Electronic Fuel Injection System)
   น้ำหนักตัวรถ                      2,110 กก.
   ประเภทยางรถยนต์               รันแฟลต
   ขนาดล้อ (นิ้ว)                   ล้ออัลลอย (18 นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน                  ขับเคลื่อนล้อหน้า

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย 
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (VSC)
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
กุญแจรีโมท (แบบการ์ด)
ไฟเบรกดวงที่ 3
ระบบป้องกันการโจรกรรม (แบบ Immobiliser และ Intrusion Sensor พร้อมสัญญาณเตือนอัตโนมัติ)
ระบบกระจายแรงเบรก EBD (,ระบบช่วยเบรค (BA))
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ (ระบบช่วยจอดพร้อมระบบเบรคอัตโนมัติ,ระบบป้องกันก่อนการชน, ระบบติดตามช่องทางวิ่ง)
เข็มขัดนิรภัย (แบบ 3 จุด พร้อมระบบดึงกลับและลดแรงกระชาก (สำหรับที่นั่งตอนหน้า),แบบ 3 จุด พร้อมระบบดึงกลับ (สำหรับที่นั่งตอนหลัง))
กระจกนิรภัย (กระจกหน้าตัดแสง UV พร้อมระบบดูดซับเสียง,กระจกตัดแสง UV สำหรับประตูรถด้านหน้า-หลัง)
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล
กล้อง (มองภาพด้านหลังขณะถอยจอด Panoramic View)
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (แบบ ISO FIX-Compliant (สำหรับที่นั่งตอนหลัง))
ระบบเตือนแรงดันลมยาง
92
เทียนเกล็ดหอย, ไซเลียม ฮัสค์, ไซเลียม ฮัสก์, Psyllium Husk, Psyllium Powder, PsylliumHusk India
แหล่งเส้นใย (Fiber) ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ได้รับการขนานนามว่า ราชาของใยอาหารจากพืช
สามารถสอบถาม ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติม และสั่งซื้อสินค้าได้ที่
บริษัท ไทยโพลีเคมิคอล จำกัด (วัตถุเจือปนอาหาร)
Thai Poly Chemicals Company Limited (Food Additive)
Tel: 034496284, 034854888
Mobile: 0800160016, 0893128888
Line ID: thaipoly8888
Email: thaipoly8888@gmail.com
Web: www.thaipolychemicals.com
PTCCPNPSYLLIUMHUSKPOLWDER
ข้อมูล ไซเลียม ฮัสค์ (Psyllium Husk)
ไซเลียม ฮัสค์ (Psyllium Husk) คือ แหล่งเส้นใย (Fiber) ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากพืช เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคุณสมบัติในการแก้ท้องผูก มีประโยชน์ต่อลำไส้ และช่วยด้านสุขภาพอื่น ๆ ในร่างกาย โดย Psyllium Husk Powder ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งใช้เป็นอาหารเสริมด้วย จึงถือได้ว่า Psyllium Husk เป็นราชาของใยอาหารที่มาจากพืช Psyllium Husk สกัดมาจากเมล็ดไซเลียม ฮัสค์ หรือในชื่อไทยเรียกอีกชื่อว่า เทียนเกล็ดหอย ลำต้นมีลักษณะคล้ายไม้พุ่ม ที่เรียกว่า Plantago ovata หรือ Ispaghula ซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปที่ประเทศอินเดีย (India) โดย Psyllium Husk เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ (Fiber) ที่มีลักษณะเป็นเจล ประกอบด้วย ไมโคร-โพลีแซคคาไรด์ และเซลลูโลส เป็นตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้มีประโยชน์ต่อสุขภาพของลำไส้และสุขภาพอื่น ๆ ซึ่ง Psyllium Husk ประกอบด้วยไฟเบอร์ 2 ชนิด คือ ไฟเบอร์แบบที่ละลายน้ำได้ 70% (Soluble Fiber) และแบบที่ละลายน้ำไม่ได้ 30% (Insoluble Fiber) นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบทางโภชนาการ (Psyllium Husk Nutrition) อื่น ๆ เช่น แคลเซียม เหล็ก โพแทสเซียม และโปรตีนอีกด้วย โดยมีงานวิจัยต่าง ๆ ออกมามากมายที่ระบุว่าการรับประทาน Psyllium Husk มีประโยชน์ต่อร่างกาย จากคุณสมบัติเด่น ๆนี้จึงทำให้ Psyllium Husk Powder ถูกประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น ขนมปัง ซีเรียล ในอุตสาหกรรมยา หรือแม้กระทั่งอาหารเสริมในรูปแบบต่าง ๆ เช่น แกลบ แคปซูล และผง นอกจากจะช่วยเป็นไฟเบอร์ในระบบขับถ่ายแล้ว ยังช่วยดูแลสุขภาพและความงาม ได้อีกด้วย
ประโยชน์ของ ไซเลียม ฮัสค์ (Psyllium Husk)
ช่วยแก้อาการท้องผูก
Psyllium Husk มีความสามารถในการดูดซับน้ำได้มากในระบบทางเดินอาหาร โดยเมื่อ Psyllium Husk รวมกับน้ำแล้วมันจะพองตัวขึ้นเมื่อจับกับอาหาร ของเหลวจะถูกดูดซึมในลำไส้มากขึ้น ซึ่ง Psyllium Husk จะกระตุ้นให้ลำไส้หดตัวและช่วยทำให้ปริมาณอุจจาระเพิ่มขึ้นและทำให้การเคลื่อนไหวของอุจจาระในลำไส้เร็วมากขึ้น ไม่ทำให้ท้องอืด ช่วยลดอาการท้องผูกได้
ช่วยลดความดันโลหิตและบำรุงหัวใจ
Psyllium Husk มีส่วนช่วยในการลดไตรกลีเซอไรด์ในเส้นเลือด ทำให้ไขมันไม่อุดตันในเส้นเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และสาเหตุความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
Psyllium Husk มีปริมาณเส้นใยสูง (เส้นใยที่ละลายในน้ำได้) ซึ่งอาจช่วยลดระดับอินซูลิน และน้ำตาลในเลือดให้คงที่ได้ และ Psyllium Husk สามารถลดระดับคอเลสเตอรอลรวม และไขมันชนิดร้าย (LDL) ซึ่ง Psyllium Husk ทำงานได้ดีกว่าเส้นใยอื่น ๆ เพราะเส้นใยของ Psyllium Husk จะสร้างเจลที่ทำให้อัตราการย่อยช้าลง เป็นการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
ช่วยลดน้ำหนัก คุมหิว อิ่มนาน
เนื่องจาก Psyllium Husk มีสารมิวซิเลจ (mucilage) 10% เมื่อแช่น้ำจะพองตัวได้ถึง 25 เท่า มีคุณสมบัติเป็นเส้นใยไฟเบอร์ช่วยดูดซับของเหลวในร่างกาย เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจึงทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว อิ่มนาน ไม่หิว ไม่มีองค์ประกอบของน้ำตาล ช่วยลดคอเรสเตอรอลที่ไม่ดี และช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้ดีมาก จึงเหมาะกับการใช้ Psyllium Husk ในการลดน้ำหนัก
ช่วยดีท็อกซ์ลำไส้
คุณสมบัติของ Psyllium Husk คือ มีความสามารถในการอุ้มน้ำและดูดซับสารต่างๆในลำไส้ รวมทั้งสารพิษในร่างกาย แล้วจะจะถูกขับออกมาในรูปของอุจจาระ การกำจัดสารพิษในลำไส้ของ Psyllium Husk จะอาศัยคุณสมบัติในการดูดซับที่ดีของใยอาหาร ลำไส้จะถูกทำความสะอาดเมื่อใยอาหารเหล่านี้เคลื่อนตัวผ่านไปสารพิษหรือสารตกค้างอื่น ๆ ก็จะถูกดูดซับและกำจัดออกไป ทำให้ลำไส้ถูกดีท็อกซ์ นอกจากจะส่งผลภายในแล้ว ยังส่งผลถึงภายนอกด้วย นั่นก็คือจะทำให้เรารู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และไม่ทำให้เป็นริดสีดวงด้วย
ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
หากเราขับถ่ายอุจจาระไม่ตรงเวลา อาจทำให้อุจจาระถูกบีบขึ้นกลับไปทำให้อุจจาระขับถ่ายไม่หมด และติดค้างที่ลำไส้ไปเกาะที่ผนังของลำไส้พอ มีการขับอุจจาระใหม่ที่เหลวกว่าไปจ่อที่ปลายทหารหนัก ก็จะมีอาการปวดอุจจาระ แต่อุจจาระเก่าจะไม่สามารถขับถ่ายออกไปได้เพราะเกาะติดแน่นที่ลำไส้บางส่วน เมื่อนานเข้าจะมีการสะสมของของเสียจนเกิดพิษในลำไส้และร่างกาย ส่งผลให้เกิดภาวะท้องผูก โรคริดสีดวงทหารหนัก หรือ ก่อให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ต่อไปนั่นเอง Psyllium Husk จึงมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก โดยการดูดซับสารพิษ ทำให้อุจจาระนิ่มและเคลื่อนที่ได้เร็ว ช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ริดสีดวงทวารหนักและท้องผูก ซึ่ง Psyllium Husk ถือเป็นสมุนไพรที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่ส่งผลกระทบต่อตับและไตอีกด้วย
กล่าวโดยสรุปคือ Psyllium Husk ถือได้ว่าเป็นราชาของใยอาหารที่มาจากพืช อุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ และมีไฟเบอร์ สูง ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร ระบบลำไส้และระบบขับถ่าย ไม่เป็นอันตรายต่อตับและไต โดยการใช้ประโยชน์ด้านการดูดซับของตัวมันเองในการอุ้มน้ำไว้ ทำให้อุจจาระนิ่มและทำให้ลำไส้เคลื่อนที่ได้ดีขึ้น จึงช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ท้องผูก ดีท็อกซ์ลำไส้ ล้างพิษและของเสียที่ตกค้างออก ช่วยส่งผลจากภายในสู่ภายนอก ทำให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และยังช่วยลดการเกิดโรคเบาหวาน และลดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ นอกจากนั้นแล้ว Psyllium husk ยังมีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติก ที่ช่วยเสริมเรื่องระบบภูมิคุ้มกันในกระเพาะอาหาร และเสริมการทำงานในระบบลำไส้ได้อีกด้วย  แต่ถ้าหากเรารับประทาน Psyllium husk มากเกินไปก็อาจจะส่งผลไม่ดีกับเราแทน โดยอาจจะทำให้เกิดอาการท้องผูก ทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดและแน่นท้องได้
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ไซเลียม ฮัสค์ (Psyllium Husk)
สามารถสอบถามโดยตรงได้ที่ บริษัท ไทยโพลีเคมิคอล จำกัด
โทร 034854888 โทร 0893128888 ไลน์ไอดี thaipoly8888
Product description of Psyllium Husk
Psyllium or ispaghula is the common name used for several members of the plant genus Plantago whose seeds are used commercially for the production of mucilage. Psyllium is mainly used as a dietary fiber to relieve symptoms of both constipation and mild diarrhea, and occasionally as a food thickener. Allergy to psyllium is common in workers frequently exposed to the substance. Use of psyllium in the diet for three weeks or longer may lower blood cholesterol levels in people with elevated cholesterol, and may lower blood glucose levels in people with type 2 diabetes. Use of psyllium for a month or longer may produce a small reduction in systolic blood pressure. The plants from which the seeds are extracted tolerate damp and cool climates, and are mainly cultivated in northern India.
Psyllium in food application
Psyllium has been used as a thickener in ice cream and other frozen desserts. A 1.5% weight per volume ratio of psyllium mucilage exhibits binding properties that are superior to a 10% weight per volume ratio of starch mucilage. The viscosity of psyllium mucilage dispersions are relatively unaffected between temperatures of 20 and 50 °C (68 and 122 °F), by pH from 2 to 10, and by salt (Sodium Chloride) concentrations up to 0.15 M. Psyllium seed husks can also be used to improve texture in gluten-free baked goods, to bind meatballs, and to thicken sauces. Some people use them to manage symptoms of irritable bowel syndrome, etc.
More information of Psyllium Husk, please contact
Thai Poly Chemicals Company Limited (TPCC)
Tel. 6634854888 Tel. 668 93128888 Line id. thaipoly8888

93
ลงประกาศฟรี / อาหารเสริม Ucore ของแท้ส่งจากบริษัท
« กระทู้ล่าสุด โดย jiabonline เมื่อ 31 สิงหาคม 2024, 11:03:39 am »
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร UCore  ของแท้ส่งจากบริษัท ตัวแทนจำหน่ายถูกต้องจากบริษัท




(ยูคอร์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดแคปซูลนิ่ม)
UCore (SOFT GEL DIETARY SUPPLEMENT PRODUCT)
1 กระปุก 30 แคปซูล
ราคา990บาท
โปรโมชั่นพิเศษ 2 แถม1  1,800 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ucore
94
เด็กควรงดรับประทานลูกอม ขณะเข้ารับการจัดฟันเด็ก

หากพูดถึงเรื่องปัญหาฟันผุ บางคนอาจนึกถึงความเจ็บปวดที่รุนแรงมากที่ตัวเองมีประสบการณ์มาในอดีต หรือบางคนอาจนึกถึงภาพฟันเป็นรูบิ่นแตก และมีสีดำสกปรก ไม่น่าดู และทำให้เสียบุคลิกภาพมาจนถึงตอนโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งทำให้เสียบุคลิกภาพ มีสุขภาพฟันที่ไม่ดี โดยปัจจัยของการเกิดฟันผุนั้น หลายคนทราบดีอยู่แล้วว่า การรับประทานลูกอมหรือขนมหวานอาจจะทำให้เกิดฟันผุได้ง่าย ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะปลูกฝังให้เด็ก งดการรับประทานลูกอม แต่สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคฟันผุ ได้แก่ เชื้อโรคหรือเชื้อจุลินทรีย์ ถึงแม้ว่าจะมีเชื้อในปากอยู่มากมายหลายชนิด แต่มีเชื้อเฉพาะที่เป็นสาเหตุของโรคฟันผุ และพบมีเชื้อชนิดนี้มากในปากของคนที่ฟันผุมาก รวมไปถึงน้ำตาล ซึ่งเป็นอาหารเฉพาะสำหรับเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคฟันผุ จำเป็นสำหรับการดำรงชีพและการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ดังกล่าว ซึ่งเมื่อเชื้อใช้น้ำตาลแล้วจะเปลี่ยนแปลงทางเคมีให้สารสุดท้ายเป็นกรดอินทรีย์ และสามารถทำลายหรือสลายแร่ธาตุของฟันต่อไป


ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะต้องใช้เวลานานพอที่การสลายแร่ธาตุของฟันมีการสูญเสียมาก จนเกิดเป็นรูฟันขึ้นอย่างถาวรในที่สุด ดังนั้น การรับประทานลูกอมในเด็กนั้น จึงเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุได้ง่าย ยิ่งถ้าเด็กได้รับประทานในปริมาณที่มาก และไม่ทำความสะอาดช่องปากและฟันที่ไม่ดีเท่าที่ควรด้วย ก็จะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดฟันผุและปัญหาอื่นๆตามมาได้ในอนาคต ซึ่งโรคฟันผุ พบมากในเด็ก ซึ่งเป้นวัยที่อาจจะยังแปรงฟันได้ไม่ถูกวิธี หรือละเลยการทำความสะอาดช่องปากและฟัน จึงทำให้เกิดฟันผุจนถึงขั้นสูญเสียฟันไปในที่สุด ดังนั้น วันนี้ทางคลินิก ของเราจะมาพูดถึง การปลูกฝังให้เด็กงดรับประทานลูกอม ในขณะเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ซึ่งข้อนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดูแลไม่ให้เด็กรับประทานลูกอม


การจัดฟันในเด็ก ถือว่าเป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะเด็กในสมัยนี้มีฟันผุมาก เนื่องจากยังไม่เข้าใจวิธีการทำความสะอาดช่องปากและฟันที่ถูกต้อง ประกอบกับพ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะละเลยในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน จนทำให้เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ไม่ดี พ่อแม่หลายคนคิดว่า ฟันน้ำนมของเด็กไม่มีความสำคัญ เพราะคิดว่า ยังไงก็จะมีฟันแท้ขึ้นมาแทนที่อยู่แล้ว


แต่ความคิดดังกล่าวถือว่าเป้นความคิดที่ผิดอย่างมาก เพราะฟันน้ำนมของเด็ก มีผลต่อการขึ้นขอองฟันแท้ ถ้าหากฟันน้ำนมหลุดออกก่อนวัยอันควร จะส่งผลให้ฟันแท้ที่กำลังสร้างฐานฟันแท้ไม่สมบูรณ์ จนอาจจะเกิดภาวะฟันแท้หายได้ เนื่องจากฟันแท้ไม่สามารถงอกขึ้นมาได้ตามธรรมชาติ ดังนั้น การดูแลเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กให้สะอาด ควรเป้นเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรที่จะมองข้าม และยิ่งเด็กที่เข้ารับการจัดฟันในเด็กด้วยแล้ว การรักษาความสะอาดของช่องปากและฟัน จึงเป้นเรื่องที่สำคัญมาก ยิ่งต้องทำความสะอาดให้ดีทุกซอกทุกมุม และในเรื่องของการรับประทานอาหารก็เป็นปัจจัยสำคัญมากเช่นเดียว 


นอกจากนี้ การรับประทานลูกอม ขนมหวาน หรือแม้กระทั่งน้ำอัดลม เพราะน้ำตาลที่เด้กรับประทานเข้าไป นอกจากจะใช้เป็นพลังงานในการเจริญเติบโตของเชื้อ และทำปฏิกิริยาทางเคมีให้สารสุดท้ายเป็นกรดอินทรีย์ปล่อยออกมานอกเซลล์ของเชื้อจุลินทรีย์ ไปสลายแร่ธาตุของฟันแล้ว เชื้อจุลินทรีย์จะใช้อีกส่วนหนึ่งของน้ำตาลสร้างเป็นชั้นเมือกเหนียวติดบนตัวฟัน เพื่อให้เป็นที่ยึดเกาะทับถมเพิ่มจำนวนเชื้อบนฟันในรูปของคราบจุลินทรีย์ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการทำปฏิกิริยาในการทำลายฟันมากขึ้นไปอีก


ดังนั้น พ่อแม่ควรให้เด็กที่เข้ารับการจัดฟันในเด็ก งดรับประทานไปเลย เพื่อที่จะเซฟในเรื่องของเครื่องมือ และทำให้สามารถความสะอาดได้อย่างเต็มที่ และให้เด็กงดการรับประทานอาหารที่มีความหวาน ลูกอม หรือน้ำอัดลม ควรให้เด้กรับประทานอาหารว่าง จำพวกผลไม้ดีกว่ารับประทานอาหารที่เป้นโทษต่อฟันของเด็ก เพื่อให้เด็กได้มีสุขภาพฟันและสุขภาพร่างกายที่ดี ให้สามารถทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างเต็มที่ มีรอยยยิ้มที่สดใสสมวัยได้

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจให้บุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันในเด็ก และยังมีระสบการณ์ด้านทันตกรรมเด็กมาอย่างยาวนาน พร้อมที่จะให้คำแนะนำและคำปรึกษาสำหรับเด็กที่อยากเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะเราอยากเด็กมีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีฟันที่เรีงตัวกันอย่างสวยงามเป้นธรรมชาติ มีบุคลิกภาพที่สดใสมั่นใจ และมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้น
95
ลงประกาศฟรี / หมอประจำบ้าน: โรคลมร้อน (Heat stroke)
« กระทู้ล่าสุด โดย siritidaphon เมื่อ 30 สิงหาคม 2024, 20:44:52 pm »
หมอประจำบ้าน: โรคลมร้อน (Heat stroke)

โรคลมร้อน (โรคลมแดด ฮีตสโตรก ก็เรียก) เป็นภาวะการเจ็บป่วยฉุกเฉินร้ายแรงชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากร่างกายสูญเสียกลไกปรับอุณหภูมิ* ไม่สามารถกำจัดความร้อน เป็นเหตุให้มีการสะสมความร้อนภายในร่างกายสูงมากจนส่งผลให้อวัยวะต่าง ๆ ทำหน้าที่ผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมอง หัวใจ ตับและไต ซึ่งอาจมีอันตรายถึงเสียชีวิต มักเกิดขึ้นเมื่อร่างกายเผชิญกับคลื่นความร้อน (ซึ่งเกิดขึ้นในฤดูร้อน) หรือออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมท่ามกลางอากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน

โรคนี้พบได้ในคนทุกวัย แต่กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ ทารก เด็กเล็ก (อายุต่ำกว่า 5 ปี) ผู้สูงอายุ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งอายุมากกว่า 65 ปี) คนอ้วน ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง (เช่น โรคหัวใจ โรคปอดเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน โรคหลอดเลือดสมอง พาร์กินสัน เป็นต้น) ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำหรือโรคพิษสุราเรื้อรัง ผู้ที่นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือขาดการออกกำลังกาย


นอกจากนี้ ผู้ที่กินยาบางชนิดที่ขัดขวางกลไกการกำจัดความร้อนออกจากร่างกาย (เช่น ยารักษาโรคจิตประสาท ยาแก้แพ้ ยาที่ออกฤทธิ์แอนติโคลิเนอร์จิก ยาขับปัสสาวะ ยาลดความดันกลุ่มปิดกั้นบีตา เป็นต้น) ผู้ที่เสพยา (โคเคน แอมเฟตามีน) ก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้มากขึ้น

*ร่างกายของคนเราจะปรับอุณหภูมิให้อยู่ประมาณ 37 องศาเซลเซียส (98.6 องศาฟาเรนไฮต์) อยู่ตลอดเวลา ถ้าร่างกายมีการสะสมความร้อนมาก (เช่น การเผาผลาญอาหาร การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อร่างกาย) ก็จะกำจัดความร้อนออกจากร่างกายโดยการแผ่รังสี (ความร้อนจะกระจายออกจากร่างกายที่ร้อนกว่าไปยังอากาศภายนอกที่เย็นกว่า แต่ถ้าอากาศภายนอกร้อนเกิน 35 องศาเซลเซียส หรือร้อนกว่าร่างกาย ร่างกายก็ไม่สามารถแผ่รังสีความร้อนออกไปข้างนอก) และระบายออกทางเหงื่อ (จะเกิดขึ้นเมื่ออากาศภายนอกร้อนกว่าร่างกาย หรือขณะออกกำลังกาย แต่ถ้าอากาศภายนอกมีความชื้นสูง ก็จะทำให้การระบายความร้อนออกทางเหงื่อด้อยประสิทธิผลลงไป) ดังนั้นการกำจัดความร้อนของร่างกายจะเป็นไปได้ยากเมื่ออยู่ในอากาศที่ร้อนและชื้น

สาเหตุ

1. เกิดจากการเผชิญกับอากาศร้อน เช่น การเกิดคลื่นความร้อน (คือ อุณหภูมิสูงผิดปกติอยู่เป็นเวลาหลายวันหรือเป็นสัปดาห์*) อาจทำให้เกิดโรคลมร้อนหรือฮีตสโตรกในผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ร่างกายอ่อนแอจากภาวะการเจ็บป่วยซึ่งอยู่ในห้องที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศหรือการถ่ายเทอากาศไม่ดี

2. เกิดจากการออกกำลังกายหรือทำงานใช้แรงกายอย่างหนักท่ามกลางอากาศร้อนและชื้น ในที่กลางแดด หรือในห้องที่ร้อนและปิดมิดชิด ร่างกายจะสร้างความร้อนมากเกินกว่าที่สามารถกำจัดออกไปได้ มักพบในนักกีฬา นักวิ่งมาราธอน นักปั่นจักรยานทางไกล นักขับรถแข่ง ทหาร (ที่ฝึกอยู่กลางแดด) คนงานก่อสร้าง เกษตรกร คนเร่ร่อน ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีอายุไม่มาก

3. ในเด็กเล็กที่ติดอยู่ในรถยนต์ที่ปิดประตูหน้าต่างอยู่กลางแดดเปรี้ยง ก็อาจได้รับอันตรายจากความร้อนร่วมกับภาวะขาดอากาศหายใจ

สาเหตุเหล่านี้ทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดความร้อน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใส่เสื้อผ้าที่หนา รัดรูป หรือไม่สามารถระบายความร้อนได้ ร่างกายมีภาวะขาดน้ำ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีผลส่งเสริมให้ร่างกายสูญเสียกลไกปรับอุณหภูมิมากยิ่งขึ้น) ทำให้มีอุณหภูมิแกน (core temperature โดยการวัดทางทวารหนัก) ขึ้นสูงมากกว่า 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป ความร้อนจะทำให้อวัยวะต่าง ๆ ถูกทำลายจนทำหน้าที่ผิดปกติไป และเกิดปฏิกิริยาการอักเสบของร่างกาย ก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรง

*คลื่นความร้อน (heat waves) คือปรากฏการณ์ที่เกิดจากอากาศร้อนจัดสะสมอยู่บริเวณใดบริเวณหนึ่งในแผ่นดิน หรือพัดพามากับกระแสลมแรงจากทะเลทราย เกิดเป็นคลื่นความร้อน ทำให้เกิดความแปรปรวนของความร้อนในอากาศ อุณหภูมิสูงผิดปกติอยู่เป็นเวลาหลายวันหรือเป็นสัปดาห์

ดัชนีค่าความร้อนขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของแต่ละประเทศและแต่ละภูมิภาค สำหรับประเทศไทยกำหนดเกณฑ์ว่า อากาศร้อนมีอุณหภูมิระหว่าง 35-39.9 องศาเซลเซียส และอากาศร้อนจัดมีอุณหภูมิตั้งแต่ 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป

องค์การอนามัยโลก รายงานว่า ระหว่างปี 2541-2560 ทั่วโลกมีผู้ที่เสียชีวิตจากโรคลมร้อนจากคลื่นความร้อนมากกว่า 166,000 ราย (ซึ่งพบในประเทศในแถบยุโรป สหรัฐอเมริกา และอินเดียเป็นส่วนใหญ่) เฉพาะในปี 2546 คลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นในประเทศทางยุโรป ทำให้มีผู้ที่เสียชีวิตจากโรคนี้กว่า 70,000 ราย

จากรายงานของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่ปี 2558-2562 พบผู้เสียชีวิตจากภาวะอากาศร้อนทุกปี (ระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม) จำนวน 56, 60, 24 ,18 และ 57 รายตามลำดับ

อาการ

ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงจัด ร่วมกับอาการทางสมอง (เช่น เดินเซ สับสน พฤติกรรมแปลก ๆ ประสาทหลอน เพ้อคลั่ง ชัก หมดสติ) และมีประวัติเผชิญคลื่นความร้อน ออกกำลังหรือใช้แรงกายในที่ที่อากาศร้อน หรือติดอยู่ในรถยนต์ที่จอดอยู่กลางแดดร้อนนาน ๆ

ก่อนมีอาการทางสมองนับเป็นนาที ๆ ถึงชั่วโมง ๆ ผู้ป่วยมักมีอาการอื่น ๆ นำมาก่อน เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ปวดศีรษะแบบตุบ ๆ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดตามกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อเป็นตะคริว กระสับกระส่าย ใจเต้นเร็ว หายใจตื้นและเร็ว เป็นต้น

ภาวะแทรกซ้อน

มีผลกระทบต่ออวัยวะแทบทุกส่วน เกิดภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ ได้แก่

    หัวใจ หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตต่ำ เลือดออกใต้เยื่อบุหัวใจ (subendocardial hemorrhage)
    ปอด ปอดบวมน้ำ (pulmonary edema) ปอดอักเสบจากการสำลัก (aspiration pneumonia) ภาวะเลือดเป็นด่าง (respiration alkalosis) กลุ่มอาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (acute respiratory distress syndrome/ARDS)
    ไต ไตวายเฉียบพลัน
    เลือด ภาวะผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด (ทำให้มีเลือดออกง่าย) ภาวะเลือดจับเป็นลิ่มทั่วร่างกาย (DIC)
    กล้ามเนื้อ เซลล์กล้ามเนื้อถูกทำลาย (rhabdomyolysis) มีอาการปวดกล้ามเนื้อ ปัสสาวะสีดำหรือสีโคล่า
    สมอง อัมพาตครึ่งซีก หมดสติ ความจำเสื่อม บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง เดินเซ ชัก
    ตับ ดีซ่าน เซลล์ตับตาย (hepatocellular necrosis) ตับวาย
    อิเล็กโทรไลต์ ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำหรือสูง ภาวะเเคลเซียมในเลือดต่ำ ภาวะโซเดียมในเลือดสูง ภาวะเลือดเป็นกรดจากกรดแล็กติก (lactic acidosis) ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ภาวะยูริกในเลือดสูง

โรคลมจากความร้อน,ภาวะแทรกซ้อน
 

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก ซึ่งมีสิ่งตรวจพบดังนี้

ไข้ (วัดทางทวารหนัก) มากกว่า 40 องศาเซลเซียส (บางรายอาจสูงถึง 47 องศาเซลเซียส) แต่ถ้ามีการปฐมพยาบาลด้วยการลดอุณหภูมิร่างกายมาก่อนก็อาจตรวจไม่พบไข้หรือไข้ไม่สูงมาก

มีอาการหน้าแดง ผิวหนังออกร้อน ในกลุ่มที่เกิดจากคลื่นความร้อนอาจพบผิวหนังแห้ง ไม่มีเหงื่อ ส่วนในกลุ่มที่ออกกำลังกายมากอาจพบผิวหนังแห้งหรือมีเหงื่อออกเล็กน้อยก็ได้

ชีพจรเต้นเบาและเร็ว หายใจตื้นและเร็ว

ความดันโลหิตอาจสูงหรือต่ำ หรือแรงชีพจร (pulse pressure) กว้าง (ความดันช่วงล่างหรือไดแอสโตลีต่ำ)

อาจตรวจพบภาวะแทรกซ้อนของระบบอวัยวะต่าง ๆ เช่น ชัก หมดสติ เพ้อคลั่ง พฤติกรรมแปลก ๆ เดินเซ รูม่านตาโตทั้ง 2 ข้างและไม่มีปฏิกิริยาต่อแสง จ้ำเขียวตามตัว ถ่ายเป็นเลือด ไอเป็นเลือด ปัสสาวะออกน้อยหรือไม่ออกเลย

อาจพบกล้ามเนื้อเป็นตะคริว (เป็นก้อนเกร็งแข็ง) หรืออ่อนปวกเปียก

แพทย์จะทำการตรวจพิเศษ เช่น ตรวจเลือด ปัสสาวะ เอกซเรย์ปอด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง เจาะหลังนำน้ำไขสันหลังมาตรวจ เป็นต้น เพื่อประเมินอาการและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ รวมทั้งตรวจหาสาเหตุอื่น ๆ ที่มีอาการคล้ายกับโรคนี้

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะรับตัวผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล และให้การรักษา ดังนี้

    ทำการแก้ไขภาวะฉุกเฉินเกี่ยวกับการหายใจ (เช่น ให้ออกซิเจน ใช้เครื่องช่วยหายใจ) ให้สารน้ำ (normal saline หรือ lactate ringer's solution) ทางหลอดเลือดดำ
    รีบทำการลดอุณหภูมิร่างกายโดยเร็ว วิธีที่นิยมใช้กัน ได้แก่ การแช่ตัวผู้ป่วยในอ่างน้ำที่ผสมน้ำแข็ง ซึ่งมีประสิทธิภาพในการลดอุณหภูมิร่างกายได้ดีกว่าวิธีอื่น และมักใช้เป็นวิธีแรกในการลดอุณหภูมิร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยที่เกิดจากการออกกำลังกายหรือทำงานใช้แรงกายอย่างหนักท่ามกลางอากาศร้อน*

ส่วนวิธีอื่นที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่า ได้แก่ การพ่นฝอยละอองน้ำเย็น (ประมาณ 15 องศาเซลเซียส) ตามผิวกายของผู้ป่วยจนทั่วและใช้พัดลมขนาดใหญ่เป่า, การวางถุงน้ำแข็งตามศีรษะ คอ รักแร้ เเละขาหนีบ

บางกรณีแพทย์อาจใช้วิธีให้สารน้ำที่เย็นทางหลอดเลือดดำ บางรายอาจใช้วิธีสวนล้างกระเพาะอาหารหรือทวารหนักด้วยน้ำเย็น และในรายที่มีอาการรุนแรงมากอาจใช้วิธีสวนล้างช่องท้องด้วยน้ำย็น

แพทย์จะทำการติดตามวัดอุณหภูมิทางทวารหนัก พยายามทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลงมาที่ประมาณ 39 องศาเซลเซียส และจะไม่ทำการลดให้ต่ำกว่า 39 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะอุณหภูมิร่างกายลดลงต่ำเกินไป (over hypothermia)*

    ทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เพื่อประเมินอาการและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ แล้วทำการแก้ไขภาวะผิดปกติตามที่ตรวจพบ
    หลีกเลี่ยงการใช้ยาลดไข้ (นอกจากไม่มีประโยชน์แล้วยังอาจเกิดผลข้างเคียง เช่น แอสไพรินส่งเสริมให้เลือดออก พาราเซตามอลอาจมีพิษต่อตับ) และยาที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคนี้ เช่น ยาที่ออกฤทธิ์แอนติโคลิเนอร์จิก
    ถ้ามีอาการหนาวสั่น ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มขึ้น แพทย์จะบรรเทาอาการหนาวสั่นโดยให้ยาที่ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวลง เช่น กลุ่มยาเบนโซไดอะซีพีน (benzodiazepine เช่น ลอราซีแพม ไมดาโซแลม)

ผลการรักษา ขึ้นกับความรุนแรงและระยะเวลาที่เป็นก่อนมาถึงโรงพยาบาล ถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้องได้เร็ว ก็มีโอกาสรอดชีวิตถึงร้อยละ 90

แต่ถ้าปล่อยให้มีอาการนานเกิน 2 ชั่วโมงจึงได้รับการรักษา มีอัตราตายสูงถึงร้อยละ 70


บางรายเมื่อรักษาจนฟื้นตัวดีแล้ว อาจมีอุณหภูมิแกว่งขึ้นลงอยู่นานนับสัปดาห์

บางรายอาการทางสมองอาจหายไม่สนิท มีบุคลิกภาพเปลี่ยนไป ท่าทางงุ่มง่าม หรือกล้ามเนื้อทำงานประสานกันไม่ดี

การดูแลตนเอง

หากเผชิญคลื่นความร้อน หรือออกกำลังหรือใช้แรงกายในที่กลางแดดหรือที่อากาศร้อน หรือติดอยู่ในรถที่จอดอยู่กลางแดดร้อนนาน ๆ แล้วมีอาการตัวร้อน ปวดศีรษะแบบตุบๆ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการทางสมอง (เช่น เดินเซ สับสน พฤติกรรมแปลก ๆ ประสาทหลอน เพ้อคลั่ง ชัก หรือหมดสติ) ควรทำการปฐมพยาบาลและนำผู้ป่วยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล

การปฐมพยาบาล
เมื่อพบผู้ป่วยมีไข้สูง ร่วมกับอาการทางสมอง และมีประวัติถูกคลื่นความร้อน ออกกำลังหรือใช้แรงกายในที่ร้อน ควรนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลด่วน

ก่อนนำส่งโรงพยาบาล ควรให้การปฐมพยาบาล ดังนี้

    พาผู้ป่วยหลบเข้าที่ร่ม ในรถปรับอากาศ ห้องที่มีความเย็นหรือห้องแอร์
    ถอดเสื้อผ้าให้เหลือเท่าที่จำเป็น
    ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามตัว ใช้พัดลมเป่า วางถุงใส่น้ำแข็งไว้ตามหน้าผาก ซอกคอ รักแร้ และขาหนีบ
    ถ้าผู้ป่วยรู้สึกตัวดีให้ดื่มน้ำเย็น เพื่อลดอุณหภูมิในร่างกาย
    ถ้าผู้ป่วยหมดสติ จับศีรษะหันให้หน้าเอียงไปทางข้างใดข้างหนึ่ง (เพื่อป้องกันการสำลัก) และให้การปฐมพยาบาลอาการหมดสติเพิ่มเติม ดังนี้

- ใช้นิ้วล้วงเอาอาเจียน เสมหะ ฟันปลอม สิ่งแปลกปลอมออกจากปากของผู้ป่วย

- ห้ามให้ผู้ป่วยกินหรือดื่มอะไรทางปาก

- ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้น

- ให้ทำการกู้ชีวิต (ดูหัวข้อ "CPR")

    ถ้ามีอาการชักร่วมด้วย ให้การปฐมพยาบาลอาการชักเพิ่มเติม ดังนี้

- ป้องกันอันตรายหรือการบาดเจ็บ โดยให้ผู้ป่วยนอนอยู่ในพื้นที่โล่งและปลอดภัย ไม่มีสิ่งกีดขวางหรือระเกะระกะอยู่ข้างกาย

- ถ้ามีเศษอาหาร เสมหะ หรือฟันปลอม ให้นำออกจากปาก ถ้าผู้ป่วยใส่แว่นตาควรถอดออก

- อย่าใช้วัตถุ (เช่น ไม้ ด้ามช้อน ปากกา ดินสอ) สอดใส่ปากผู้ป่วยเพื่อป้องกันไม่ให้กัดลิ้น เพราะนอกจากไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควรแล้ว ยังอาจทำให้ปากและฟันได้รับบาดเจ็บได้

- อย่าผูกหรือมัดตัวผู้ป่วย อาจทำให้ผู้ป่วยบาดเจ็บได้

- อย่าให้ผู้ป่วยกินอะไรระหว่างชักหรือหลังชักใหม่ ๆ อาจทำให้ผู้ป่วยสำลักได้

    นำส่งโรงพยาบาลโดยรถปรับอากาศ หรือเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท

การป้องกัน

ในการป้องกันอันตรายจากความร้อน (อากาศร้อน) โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่ใช้ยาบางชนิดหรือเป็นโรคประจำตัว ควรปฏิบัติดังนี้

1. หลีกเลี่ยงการออกกำลังหรือใช้แรงกายในที่ที่อากาศร้อนและชื้น

2. ถ้าจำเป็นต้องออกกำลังกายหรือใช้แรงกายในที่กลางแดดหรืออากาศร้อน ควรปฏิบัติดังนี้

    ก่อนออกกำลังควรดื่มน้ำ 400-500 มล. (ประมาณ 2 แก้ว) และระหว่างออกกำลังควรดื่มน้ำ 200-300 มล. (ประมาณ 1 แก้ว) เป็นระยะ ๆ (ประมาณทุก 20 นาที) เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
    ควรสวมเสื้อผ้าบาง ๆ หลวม ๆ มีลักษณะสีอ่อน และระบายความร้อนได้ดี
    เมื่อออกกลางแดด ควรสวมหมวกปีกกว้าง ใส่แว่นกันแดด และทายากันแดดที่มีค่า SPF มากกว่า 15 ขึ้นไป
    หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่ส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำ เช่น ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    หลีกเลี่ยงการกินยาที่ขัดขวางกลไกการกำจัดความร้อนออกจากร่างกาย
    ไม่ควรอยู่ในที่กลางแดดหรืออากาศร้อนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ควรกางร่มหรือหลบเข้าที่ร่มเป็นพัก ๆ

3. ในช่วงที่มีคลื่นความร้อน (อากาศร้อน) ควรอยู่ในห้องปรับอากาศ หรือในบ้านที่เปิดประตูหน้าต่าง มีพัดลมเป่าให้อากาศถ่ายเทสะดวก (อย่าอยู่ในห้องปิด หรือที่อับไม่มีอากาศถ่ายเท) ควรอาบน้ำบ่อย ๆ ดื่มน้ำมาก ๆ สวมเสื้อผ้าบาง ๆ หลวม ๆ สีอ่อนและเท่าที่จำเป็น

4. สำหรับเด็กเล็ก ไม่ควรปล่อยเด็กไว้ในรถยนต์ตามลำพังแม้เพียงเดี๋ยวเดียว เมื่อไม่ใช้รถควรปิดประตูรถทุกครั้ง และเก็บกุญแจรถไว้ในที่มิดชิดหรือที่เด็กเอื้อมไม่ถึง

ข้อแนะนำ

1. โรคลมร้อน (heat stroke) เป็นโรคที่เกิดจากความร้อน (heat-related illness) ชนิดที่ร้ายแรงที่สุด ความร้อน (อากาศร้อน) อาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้อีกหลายลักษณะ* ดังนั้นเมื่อเผชิญกับความร้อนแล้วมีอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้น ควรสังเกตตัวเองว่าเป็นภาวะที่มีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด และให้การดูแลรักษาที่เหมาะสม

2. กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่เกิดจากความร้อน ได้แก่ ทารก เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนอ้วน ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง ผู้ที่กินยาบางชนิดที่ขัดขวางกลไกการกำจัดความร้อนออกจากร่างกาย ดังนั้นเมื่อเผชิญกับอากาศร้อน ควรระมัดระวังตัว และรู้จักหาทางป้องกันไม่ให้เกิดการเจ็บป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเพลียแดด และโรคลมร้อน

*อาการเจ็บป่วยที่เกิดจากความร้อน ที่สำคัญ ได้แก่
1. ภาวะเป็นลมจากความร้อน (heat syncope) เกิดจากร่างกายขาดน้ำ ทำให้ความดันโลหิตลดลง เลือดไปเลี้ยงสมองได้น้อยลง ขณะลุกขึ้นยืนเร็ว ๆ หรือยืนนาน ๆ ก็จะเกิดอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลมหมดสติชั่วขณะ แล้วฟื้นคืนเป็นปกติได้เอง นับว่าเป็นภาวะที่มีความรุนแรงน้อย

การรักษา ควรรีบพาเข้าในที่ร่ม ให้ผู้ป่วยนอนราบหรือนั่ง ปลดเสื้อผ้าให้หลวมสบาย และให้ดื่มน้ำ (น้ำเย็น น้ำผลไม้ สารละลายน้ำตาลเกลือแร่) หากพบในผู้สูงอายุหรือมีอาการกำเริบบ่อย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาภาวะผิดปกติอื่น ๆ

2. ตะคริวจากความร้อนหรือตะคริวแดด (heat cramps) เกิดจากความร้อนทำให้เหงื่อออกมาก ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ เกิดอาการกล้ามเนื้อเป็นตะคริว ซึ่งมักเป็นที่น่อง ต้นขา และไหล่

การรักษา ควรรีบพาเข้าที่ร่ม ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำกับเกลือแร่ (สารละลายน้ำตาลเกลือแร่) ถ้าอาการไม่ทุเลาใน 1 ชั่วโมง หรือสงสัยเป็นภาวะหมดแรงจากความร้อนหรือโรคเพลียแดด (ซึ่งมักมีอาการเป็นตะคริวร่วมกับไข้และอาการอื่น ๆ) ควรรีบไปพบแพทย์

3. ภาวะหมดแรงจากความร้อนหรือโรคเพลียแดด (heat exhaustion) มีสาเหตุจากการสูญเสียน้ำและเกลือแร่อย่างมาก จากการมีเหงื่อออกมากหรือมีภาวะขาดน้ำที่รุนแรง มักเกิดอาการขณะออกกำลังหรือทำงานใช้แรงกายอย่างหนักท่ามกลางอากาศร้อน ผู้ป่วยจะมีอาการเหงื่อออกมาก อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า กระหายน้ำมาก คลื่นไส้ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ เป็นลม กล้ามเนื้อเป็นตะคริวหรือปวดเมื่อย กระสับกระส่าย ปัสสาวะออกน้อย โดยไม่มีอาการผิดปกติของสมองหรือภาวะแทรกซ้อนเช่นเดียวกับโรคลมร้อน การตรวจวัดอุณหภูมิทางทวารหนัก มีค่าระหว่าง 37-40 องศาเซลเซียส (ไม่เกิน 40 องศาเซลเซียส) อาจพบผิวหนังซีด เย็น มีเหงื่อชุ่ม ชีพจรเต้นเบาและเร็ว ความดันโลหิตลดต่ำลงในท่ายืน (ภาวะความดันเลือดตกในท่ายืน มีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืดเวลาลุกขึ้นยืน และทุเลาเมื่อนอนราบ) ภาวะนี้ถ้าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือ อาจรุนแรงมากขึ้นจนกลายเป็นโรคลมร้อน เป็นอันตรายได้

การรักษา รีบพาผู้ป่วยหลบเข้าที่ร่ม ในรถปรับอากาศ ห้องที่มีความเย็นหรือห้องแอร์, ให้ผู้ป่วยนอนราบ ยกเท้าสูงเล็กน้อย ปลดเสื้อผ้าให้หลวมสบาย, ให้ดื่มน้ำ (น้ำเย็น น้ำผลไม้ สารละลายน้ำตาลเกลือแร่), ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามตัว ใช้พัดลมเป่า วางถุงใส่น้ำแข็งไว้ตามหน้าผาก ซอกคอ รักแร้ และขาหนีบ ถ้าอาการไม่ทุเลาใน 15 นาที หรือสงสัยเป็นโรคลมร้อน ควรส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลด่วน

4. โรคลมร้อน (ฮีตสโตรก) มีไข้ (วัดทางทวารหนัก) มากกว่า 40 องศาเซลเซียส ร่วมกับอาการทางสมอง ผิวหนังออกแดง ร้อน และแห้ง ผู้ป่วยอาจมีอาการเป็นภาวะหมดแรงจากความร้อนหรือโรคเพลียแดดนำมาก่อน หรือบางรายไม่มีก็ได้ หากพบผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็นโรคลมร้อน ควรรีบให้การปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลทันที การรักษาได้ทันท่วงทีจะช่วยให้ชีวิตรอดปลอดภัยได้

96
เราขายร่มราคาถูก ร่มราคาส่ง มีทั้งร่มพับ และ ร่มแฟชั่น จำหน่ายร่มทุกชนิด
ร่มสั่งทำทุกรูปแบบ ร่มสกรีน ร่มโฆษณา โรงงานผลิตร่ม โดยตรง
ร่มพรีเมี่ยม ขายร่มราคาถูก ขายร่มกันแดดกันฝน ทุกชนิด ร่มสวยงาม
ร่มแฟชั่นสั่งทำพิเศษ ร่มน่ารักทุกแบบ ร่มเกาหลี แบบสวยๆ
ขายร่มพับ2ตอน ขายร่มพับ3ตอน ขายร่มพับ5ตอน
สั่งทำตามออร์เดอร์ ร่มตอนเดียว ร่มเด็ก16นิ้ว ร่มหมวก ร่มแม่ค้า ร่มตั้งพื้น
ขายของชำร่วยงานศพ ร่มงานศพ ของแจกงานศพ ของชำร่วยงานฌาปนกิจ งานพระราชทานเพลิง

มีบริการสกรีนร่มด่วน! สกรีนร่มได้ทั้งสีธรรมดาหรือไล่่เฉดสีคล้ายภาพเหมือนก็ทำได้
เราจะภูมิใจเป็นอย่างยิ่งหากคุณวางใจให้ร่มของเราเป็นอีกหนึ่งสื่อในการพรีเซนต์โลโก้แบรนด์ของคุณ

รับรองสินค้ามีคุณภาพ ทำงานไว จัดส่งไว บริการดีและทั่วถึง เพียงแค่แจ้งความต้องการใช้งานของคุณ
อยากได้ร่มแบบไหน เรายินดีแนะนำร่มที่เหมาะที่สุดเสมอ…อยากสั่งร่มโทรหา Umbrellapeet รับรองว่ามี Surprise!


ติดต่อเรา

เว็บไซต์ : www.umbrella-peet.com

08-6090-8034 (Mr.Peet)
(ซื้อจำนวนมาก ต่อรองได้)

แฟกซ์: 02-9443820

LINE : umbrellapeet




Email : caicai1133@hotmail.com

8/97 ถนนพระราม2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม. 10510




97
รับผลิต ตู้ครอบพระ ตู้กระจก ตู้โชว์ ตู้อะคริลิก ฐานรองพระ แท่นสแตนโชว์ และงานเฟอร์นิเจอร์ ต่างๆ
ผลิตตามขนาดรูปแบบ และจำนวน ตามที่ลูกค้าต้องการได้

เคพีเอส ไทย สไตล์  ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย  ตู้โชว์สินค้า, ตู้ครอบพระ, ตู้จัดแสดงสินค้า, ตู้ครอบไม้สัก, กล่องอะคริลิค หรือตู้กระจกตามแบบและขนาดที่ลูกค้าต้องการ
มีแบบให้เลือกมากกว่าใคร ใส่ใจทุกชิ้นงาน



ช่องทางสำหรับติดต่อ เคพีเอส ไทย สไตล์

Web : www.kpsthaistyle.com

Tel : 080-984-2756

Facebook : www.facebook.com/kpsbuddhacabinet/

IG : https://www.instagram.com/kpsthaistyle/

Twitter : https://twitter.com/kpsthaistyle/

@Line : https://lin.ee/ma361t6





แผนที่ร้าน : https://goo.gl/maps/CizHTYTJehBQKX8n7




#ตู้ใส่พระ #ตู้ครอบพระ #ฐานรองพระ #ฐานพระ #ตู้โชว์ #ตู้จำนวน #ตู้พระ #ตู้งานกฐิน #ตู้ครอบพระงานบุญ #ตู้ครอบของชำร่วย #ตู้ครอบพระประธาน #ตู้ใส่พระธาตุ #ตู้ครอบเศียรครู #ตู้โชว์กระจก #ตู้โชว์พระเครื่อง #ร้านขายตู้โชว์พระ #ร้านตู้กระจกใกล้ฉัน #พระบูชา #ตลับพระ #ของขวัญงานเกษียณ #ของขวัญผู้ใหญ่ #ตู้กระจกใส่ของมงคล #ดิสเพลย์ #ตู้คีออส #เคาน์เตอร์ #ตู้ราคาส่ง

www.kpsthaistyle.com
98
เทียนเกล็ดหอย, ไซเลียม ฮัสค์, ไซเลียม ฮัสก์, Psyllium Husk, Psyllium Powder, PsylliumHusk India
แหล่งเส้นใย (Fiber) ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ได้รับการขนานนามว่า ราชาของใยอาหารจากพืช
สามารถสอบถาม ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติม และสั่งซื้อสินค้าได้ที่
บริษัท ไทยโพลีเคมิคอล จำกัด (วัตถุเจือปนอาหาร)
Thai Poly Chemicals Company Limited (Food Additive)
Tel: 034496284, 034854888
Mobile: 0800160016, 0893128888
Line ID: thaipoly8888
Email: thaipoly8888@gmail.com
Web: www.thaipolychemicals.com
PTCCPNPSYLLIUMHUSKPOLWDER
ข้อมูล ไซเลียม ฮัสค์ (Psyllium Husk)
ไซเลียม ฮัสค์ (Psyllium Husk) คือ แหล่งเส้นใย (Fiber) ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากพืช เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคุณสมบัติในการแก้ท้องผูก มีประโยชน์ต่อลำไส้ และช่วยด้านสุขภาพอื่น ๆ ในร่างกาย โดย Psyllium Husk Powder ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งใช้เป็นอาหารเสริมด้วย จึงถือได้ว่า Psyllium Husk เป็นราชาของใยอาหารที่มาจากพืช Psyllium Husk สกัดมาจากเมล็ดไซเลียม ฮัสค์ หรือในชื่อไทยเรียกอีกชื่อว่า เทียนเกล็ดหอย ลำต้นมีลักษณะคล้ายไม้พุ่ม ที่เรียกว่า Plantago ovata หรือ Ispaghula ซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปที่ประเทศอินเดีย (India) โดย Psyllium Husk เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ (Fiber) ที่มีลักษณะเป็นเจล ประกอบด้วย ไมโคร-โพลีแซคคาไรด์ และเซลลูโลส เป็นตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้มีประโยชน์ต่อสุขภาพของลำไส้และสุขภาพอื่น ๆ ซึ่ง Psyllium Husk ประกอบด้วยไฟเบอร์ 2 ชนิด คือ ไฟเบอร์แบบที่ละลายน้ำได้ 70% (Soluble Fiber) และแบบที่ละลายน้ำไม่ได้ 30% (Insoluble Fiber) นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบทางโภชนาการ (Psyllium Husk Nutrition) อื่น ๆ เช่น แคลเซียม เหล็ก โพแทสเซียม และโปรตีนอีกด้วย โดยมีงานวิจัยต่าง ๆ ออกมามากมายที่ระบุว่าการรับประทาน Psyllium Husk มีประโยชน์ต่อร่างกาย จากคุณสมบัติเด่น ๆนี้จึงทำให้ Psyllium Husk Powder ถูกประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น ขนมปัง ซีเรียล ในอุตสาหกรรมยา หรือแม้กระทั่งอาหารเสริมในรูปแบบต่าง ๆ เช่น แกลบ แคปซูล และผง นอกจากจะช่วยเป็นไฟเบอร์ในระบบขับถ่ายแล้ว ยังช่วยดูแลสุขภาพและความงาม ได้อีกด้วย
ประโยชน์ของ ไซเลียม ฮัสค์ (Psyllium Husk)
ช่วยแก้อาการท้องผูก
Psyllium Husk มีความสามารถในการดูดซับน้ำได้มากในระบบทางเดินอาหาร โดยเมื่อ Psyllium Husk รวมกับน้ำแล้วมันจะพองตัวขึ้นเมื่อจับกับอาหาร ของเหลวจะถูกดูดซึมในลำไส้มากขึ้น ซึ่ง Psyllium Husk จะกระตุ้นให้ลำไส้หดตัวและช่วยทำให้ปริมาณอุจจาระเพิ่มขึ้นและทำให้การเคลื่อนไหวของอุจจาระในลำไส้เร็วมากขึ้น ไม่ทำให้ท้องอืด ช่วยลดอาการท้องผูกได้
ช่วยลดความดันโลหิตและบำรุงหัวใจ
Psyllium Husk มีส่วนช่วยในการลดไตรกลีเซอไรด์ในเส้นเลือด ทำให้ไขมันไม่อุดตันในเส้นเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และสาเหตุความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
Psyllium Husk มีปริมาณเส้นใยสูง (เส้นใยที่ละลายในน้ำได้) ซึ่งอาจช่วยลดระดับอินซูลิน และน้ำตาลในเลือดให้คงที่ได้ และ Psyllium Husk สามารถลดระดับคอเลสเตอรอลรวม และไขมันชนิดร้าย (LDL) ซึ่ง Psyllium Husk ทำงานได้ดีกว่าเส้นใยอื่น ๆ เพราะเส้นใยของ Psyllium Husk จะสร้างเจลที่ทำให้อัตราการย่อยช้าลง เป็นการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
ช่วยลดน้ำหนัก คุมหิว อิ่มนาน
เนื่องจาก Psyllium Husk มีสารมิวซิเลจ (mucilage) 10% เมื่อแช่น้ำจะพองตัวได้ถึง 25 เท่า มีคุณสมบัติเป็นเส้นใยไฟเบอร์ช่วยดูดซับของเหลวในร่างกาย เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจึงทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว อิ่มนาน ไม่หิว ไม่มีองค์ประกอบของน้ำตาล ช่วยลดคอเรสเตอรอลที่ไม่ดี และช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้ดีมาก จึงเหมาะกับการใช้ Psyllium Husk ในการลดน้ำหนัก
ช่วยดีท็อกซ์ลำไส้
คุณสมบัติของ Psyllium Husk คือ มีความสามารถในการอุ้มน้ำและดูดซับสารต่างๆในลำไส้ รวมทั้งสารพิษในร่างกาย แล้วจะจะถูกขับออกมาในรูปของอุจจาระ การกำจัดสารพิษในลำไส้ของ Psyllium Husk จะอาศัยคุณสมบัติในการดูดซับที่ดีของใยอาหาร ลำไส้จะถูกทำความสะอาดเมื่อใยอาหารเหล่านี้เคลื่อนตัวผ่านไปสารพิษหรือสารตกค้างอื่น ๆ ก็จะถูกดูดซับและกำจัดออกไป ทำให้ลำไส้ถูกดีท็อกซ์ นอกจากจะส่งผลภายในแล้ว ยังส่งผลถึงภายนอกด้วย นั่นก็คือจะทำให้เรารู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และไม่ทำให้เป็นริดสีดวงด้วย
ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
หากเราขับถ่ายอุจจาระไม่ตรงเวลา อาจทำให้อุจจาระถูกบีบขึ้นกลับไปทำให้อุจจาระขับถ่ายไม่หมด และติดค้างที่ลำไส้ไปเกาะที่ผนังของลำไส้พอ มีการขับอุจจาระใหม่ที่เหลวกว่าไปจ่อที่ปลายทหารหนัก ก็จะมีอาการปวดอุจจาระ แต่อุจจาระเก่าจะไม่สามารถขับถ่ายออกไปได้เพราะเกาะติดแน่นที่ลำไส้บางส่วน เมื่อนานเข้าจะมีการสะสมของของเสียจนเกิดพิษในลำไส้และร่างกาย ส่งผลให้เกิดภาวะท้องผูก โรคริดสีดวงทหารหนัก หรือ ก่อให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ต่อไปนั่นเอง Psyllium Husk จึงมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก โดยการดูดซับสารพิษ ทำให้อุจจาระนิ่มและเคลื่อนที่ได้เร็ว ช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ริดสีดวงทวารหนักและท้องผูก ซึ่ง Psyllium Husk ถือเป็นสมุนไพรที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่ส่งผลกระทบต่อตับและไตอีกด้วย
กล่าวโดยสรุปคือ Psyllium Husk ถือได้ว่าเป็นราชาของใยอาหารที่มาจากพืช อุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ และมีไฟเบอร์ สูง ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร ระบบลำไส้และระบบขับถ่าย ไม่เป็นอันตรายต่อตับและไต โดยการใช้ประโยชน์ด้านการดูดซับของตัวมันเองในการอุ้มน้ำไว้ ทำให้อุจจาระนิ่มและทำให้ลำไส้เคลื่อนที่ได้ดีขึ้น จึงช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ท้องผูก ดีท็อกซ์ลำไส้ ล้างพิษและของเสียที่ตกค้างออก ช่วยส่งผลจากภายในสู่ภายนอก ทำให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และยังช่วยลดการเกิดโรคเบาหวาน และลดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ นอกจากนั้นแล้ว Psyllium husk ยังมีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติก ที่ช่วยเสริมเรื่องระบบภูมิคุ้มกันในกระเพาะอาหาร และเสริมการทำงานในระบบลำไส้ได้อีกด้วย  แต่ถ้าหากเรารับประทาน Psyllium husk มากเกินไปก็อาจจะส่งผลไม่ดีกับเราแทน โดยอาจจะทำให้เกิดอาการท้องผูก ทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดและแน่นท้องได้
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ไซเลียม ฮัสค์ (Psyllium Husk)
สามารถสอบถามโดยตรงได้ที่ บริษัท ไทยโพลีเคมิคอล จำกัด
โทร 034854888 โทร 0893128888 ไลน์ไอดี thaipoly8888
Product description of Psyllium Husk
Psyllium or ispaghula is the common name used for several members of the plant genus Plantago whose seeds are used commercially for the production of mucilage. Psyllium is mainly used as a dietary fiber to relieve symptoms of both constipation and mild diarrhea, and occasionally as a food thickener. Allergy to psyllium is common in workers frequently exposed to the substance. Use of psyllium in the diet for three weeks or longer may lower blood cholesterol levels in people with elevated cholesterol, and may lower blood glucose levels in people with type 2 diabetes. Use of psyllium for a month or longer may produce a small reduction in systolic blood pressure. The plants from which the seeds are extracted tolerate damp and cool climates, and are mainly cultivated in northern India.
Psyllium in food application
Psyllium has been used as a thickener in ice cream and other frozen desserts. A 1.5% weight per volume ratio of psyllium mucilage exhibits binding properties that are superior to a 10% weight per volume ratio of starch mucilage. The viscosity of psyllium mucilage dispersions are relatively unaffected between temperatures of 20 and 50 °C (68 and 122 °F), by pH from 2 to 10, and by salt (Sodium Chloride) concentrations up to 0.15 M. Psyllium seed husks can also be used to improve texture in gluten-free baked goods, to bind meatballs, and to thicken sauces. Some people use them to manage symptoms of irritable bowel syndrome, etc.
More information of Psyllium Husk, please contact
Thai Poly Chemicals Company Limited (TPCC)
Tel. 6634854888 Tel. 668 93128888 Line id. thaipoly8888

99
สุขภาพดี: ผ้าอ้อมเซ็นเซอร์อัจฉริยะสำหรับผู้สูงอายุเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น

ผ้าอ้อมผู้สูงอายุที่มีเซ็นเซอร์อัจฉริยะ เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิตให้กับทั้งผู้สูงอายุและผู้ดูแล โดยใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับความชื้นหรือปัสสาวะ เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนผ้าอ้อม เซ็นเซอร์จะส่งสัญญาณเตือนไปยังผู้ดูแล ผ้าอ้อมอัจฉริยะที่ติดตั้งเซ็นเซอร์อัจฉริยะสามารถปรับปรุงความเป็นอยู่โดยรวมให้ดีขึ้นได้อีกด้วย

ผลิตภัณฑ์ไฮเทคเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและศักดิ์ศรีให้กับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังให้ข้อมูลด้านสุขภาพที่สำคัญซึ่งสามารถปรับปรุงความเป็นอยู่โดยรวมให้ดีขึ้นได้อีกด้วย

ข้อดีของผ้าอ้อมผู้สูงอายุที่มีเซ็นเซอร์อัจฉริยะ:
ลดความเสี่ยงต่อการเกิดผื่นผ้าอ้อม: การเปลี่ยนผ้าอ้อมเมื่อเปียกชื้น ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวสัมผัสกับความชื้นเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดผื่นผ้าอ้อม
ส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี: การเปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อยครั้ง ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์
เพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้สูงอายุ: ผู้สูงอายุรู้สึกสบายตัว ไม่ต้องกังวลว่าผ้าอ้อมจะเปียกหรือรั่ว
ช่วยให้ผู้ดูแลทำงานได้ง่ายขึ้น: ผู้ดูแลไม่ต้องคอยสังเกตว่าถึงเวลาเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือยัง sehinggaประหยัดเวลาและแรงงาน
ส่งเสริมความมั่นใจ: ผู้สูงอายุรู้สึกมั่นใจมากขึ้น because รู้สึกว่าได้รับการดูแลเอาใจใส่

การเติบโตของผ้าอ้อมอัจฉริยะ
ผ้าอ้อมอัจฉริยะที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุจะผสานเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ที่ล้ำสมัยเพื่อตรวจสอบพารามิเตอร์ด้านสุขภาพต่างๆ โดยทั่วไปแล้ว เซ็นเซอร์เหล่านี้จะฝังอยู่ในวัสดุของผ้าอ้อมและสามารถตรวจจับระดับความชื้น การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ และแม้แต่ไบโอมาร์กเกอร์บางชนิดในปัสสาวะ เมื่อถึงเกณฑ์ที่กำหนด เซ็นเซอร์จะส่งสัญญาณเตือนซึ่งสามารถส่งไปยังผู้ดูแลหรือผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพผ่านอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ เช่น สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต


คุณสมบัติหลักและประโยชน์

การตรวจสอบแบบเรียลไทม์ :

ผ้าอ้อมอัจฉริยะจะแจ้งสถานะผ้าอ้อมแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ดูแลสามารถเปลี่ยนผ้าอ้อมได้ทันทีเมื่อจำเป็น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการระคายเคืองผิวหนังและการติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTIs) ซึ่งมักพบในผู้สูงอายุ


การรวบรวมข้อมูลสุขภาพ :

ผ้าอ้อมเหล่านี้สามารถติดตามและบันทึกข้อมูลสุขภาพต่างๆ ได้ตลอดเวลา ทำให้ทราบข้อมูลอันมีค่าเกี่ยวกับสถานะสุขภาพของผู้สวมใส่ ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงความถี่หรือองค์ประกอบของปัสสาวะอาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นซึ่งต้องได้รับการรักษาจากแพทย์
เพิ่มความสะดวกสบายและความสง่างาม :

ผ้าอ้อมอัจฉริยะช่วยรักษาความสบายและศักดิ์ศรีของผู้สูงอายุ ซึ่งช่วยให้ผู้สูงอายุคงความสบายและความไม่สบายตัวได้เป็นเวลานาน และไม่เปลี่ยนผ้าอ้อมอย่างทันท่วงที


การสนับสนุนผู้ดูแล :

เทคโนโลยีนี้ช่วยลดภาระของผู้ดูแลด้วยการให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับความต้องการของผู้สูงอายุ ลดการคาดเดา และทำให้จัดสรรทรัพยากรได้ดีขึ้น
มันทำงานอย่างไร

ผ้าอ้อมอัจฉริยะใช้เซ็นเซอร์ การสื่อสารไร้สาย และการวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกันเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือรายละเอียดของกระบวนการ:

เซ็นเซอร์ : เซ็นเซอร์เหล่านี้ฝังอยู่ภายในผ้าอ้อมเพื่อตรวจจับความชื้นและจุดข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
การส่งข้อมูล : ข้อมูลที่รวบรวมจะถูกส่งแบบไร้สายไปยังระบบส่วนกลางหรือไปยังอุปกรณ์ของผู้ดูแลโดยตรง
การแจ้งเตือน : เมื่อมีการตรงตามเงื่อนไขบางประการ (เช่น ต้องเปลี่ยนผ้าอ้อม) การแจ้งเตือนจะถูกส่งแบบเรียลไทม์
การวิเคราะห์ข้อมูล : ข้อมูลที่รวบรวมมาสามารถวิเคราะห์เพื่อระบุแนวโน้มและปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะยาว ช่วยให้สามารถดูแลเชิงรุกได้
กรณีศึกษาและการประยุกต์ใช้ในโลกแห่งความเป็นจริง

บริษัทหลายแห่งเป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาและนำเทคโนโลยีผ้าอ้อมอัจฉริยะมาใช้ ตัวอย่างเช่น “Smart Briefs” ของ Pixie Scientific และ “SMART Diapers” ของ Simavita กำลังสร้างกระแสในตลาด ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้รับการนำไปใช้ในสถานพยาบาลต่างๆ ตั้งแต่บ้านพักคนชราไปจนถึงโรงพยาบาล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประโยชน์และประสิทธิภาพในการใช้งานจริง


แนวโน้มในอนาคต

อนาคตของผ้าอ้อมอัจฉริยะสำหรับผู้สูงอายุดูสดใสขึ้น โดยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ ปัญญาประดิษฐ์ และการวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาที่เป็นไปได้ ได้แก่ เซ็นเซอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้นที่สามารถตรวจจับตัวบ่งชี้สุขภาพได้หลากหลายขึ้น และการบูรณาการที่ดีขึ้นกับระบบการจัดการการดูแลสุขภาพที่กว้างขึ้น

ผ้าอ้อมอัจฉริยะสำหรับผู้สูงอายุเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและการดูแลสุขภาพได้อย่างโดดเด่น โดยเป็นโซลูชันที่ใช้งานได้จริงเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเหล่านี้ช่วยเปลี่ยนแปลงการดูแลผู้สูงอายุและปูทางไปสู่แนวทางที่รอบคอบและเชิงรุกมากขึ้นในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ โดยการติดตามแบบเรียลไทม์ การรวบรวมข้อมูลด้านสุขภาพ และความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ศักยภาพของผ้าอ้อมอัจฉริยะและนวัตกรรมที่คล้ายคลึงกันในการปรับปรุงการดูแลผู้สูงอายุก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับประชากรสูงอายุของเรา
100
ลงประกาศฟรี / Re: ConTel SIP ผนังภายในที่ช่างมืออาชีพต้องเลือก
« กระทู้ล่าสุด โดย THONGKUM เมื่อ 30 สิงหาคม 2024, 14:18:40 pm »


ผนังโครงสร้างสำเร็จรูปกันความร้อนภายในอาคารที่ได้มาตรฐานที่สุดในไทย
การก่อสร้างอาคาร ที่พักอาศัย คอนโด อาคารเชิงพาณิชย์ และอาคารทุกประเภท การเลือกซื้อผนังกันความร้อนสำหรับการใช้งานภายในอาคารผนังโครงสร้างสำเร็จรูป ต้องเลือก ConTel SIP Panel ผนังแข็งแรง ทนทาน ติดตั้งง่ายต่อการใช้งานไม่ลามไฟ และมีน้ำหนักเบาช่วยป้องกันความร้อนได้เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นอีกแบรนด์ที่ดีที่สุด ได้มาตรฐานสากลรองรับ ราคาสมเหตุสมผลเหมาะสมกับการใช้งานที่สุดที่ต้องเลือกซื้อจะไม่ผิดหวังแน่นอน

ทำไมผนังกันความร้อนจึงได้รับความนิยมมากกว่าผนังทั่วไป
ถ้าหากว่าต้องการใช้งานในการก่อสร้างอาคาร ทางวิศวกรคำนวณมาแล้วถึงการสร้างอาคารทุกประเภท และการเลือกใช้ ผนังกันความร้อน ที่ประหยัดงบ และมีราคาที่สมเหตุสมผล ได้รับความนิยมมากกว่าผนังทั่วไปเพราะว่ามีคุณสมบัติที่ดีกว่า และมีประโยชน์ต่อการใช้งานที่มากกว่าผนังทั่วไปอีกด้วย และที่นิยมคงต้องยกให้แบรนด์ ConTel SIP Panel ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ ที่ดีกว่างานทั่วไปอย่างแน่นอน ผนัง Contel SIP Panel เป็นผนังกันความร้อนที่มีค่าการต้านทานความร้อนที่สูงกว่าผนังทั่วไป จึงทำให้การถ่ายเทความร้อนระหว่างห้องลดลง ลดการนำความร้อนเข้าสู่อาคาร การใช้พลังงานในอาคารจึงลดลง ถือว่าตอบโจทย์ปัญหาในปัจจุบัน ที่อุณหภูมิภายนอกร้อนสูงขึ้นเป็นอย่างมาก



มีความรวดเร็วในการติดตั้ง
นวัตกรรมผนัง ConTel SIP Panel ระบบการติดตั้งผนังแห้ง ลดงานเปียก ทำให้ไซต์งานสะอาดและเรียบร้อย ติดตั้งได้อย่างรวดเร็วไม่ยุ่งยาก แถมไม่ต้องเสียเวลาเหมือนกับผนังทั่วไปที่ต้องมีงานก่ออิฐ ฉาบปูนทำให้เสียเวลาในการก่อสร้างนาน

กันความร้อนได้เป็นอย่างดี
โดยงานผนังก่ออิฐ ฉาบปูนทั่วไปเป็นการนำความร้อนสูง ทำให้ตัวอาคารที่ก่อสร้างร้อน และการเลือกใช้ผนังของเรานั้นกันความมีประสิทธิภาพสูง ค่าการนำความร้อน K-Value ต่ำ และมีค่าต้านทานความร้อนสูงกว่าผนังอื่น



คุณภาพผนังดี และช่วยการลดฝุ่น
สามารถที่จะทำการผลิตแผ่นได้ขนาดตามแบบจากโรงงานที่ช่วยลดปัญหาการเกิดฝุ่นและขยะในการก่อสร้าง ที่ดีกว่าผนังก่ออิฐที่ทำให้เกิดฝุ่น และผนัง SIP ติดตั้งได้มาตรฐานขั้นตอนไม่ยุ่งยาก สามารถที่จะทำให้ควบคุมงานคุณภาพได้ดี

สามารถที่จะฝังท่อไฟฟ้าได้
ด้วยผนังกันความร้อนสามารถที่จะทำการฝังท้องานระบบได้ตามตำแหน่งที่ต้องการ และยังสามารถที่จะทำการแก้ไขเพิ่มเติมจากหน้างานได้ง่ายและสะดวกกว่าการเดินงานเดินท่อระบบผนังที่ทำได้ยาก



การเลือกซื้อผนังโครงสร้างสำเร็จรูปกันความร้อน ดีอย่างไร
สำหรับภายในอาคารการเลือกใช้งานที่ทันสมัยด้วยโครงสร้างสำเร็จรูป กันความร้อนด้วย ConTel SIP Panel ได้รับการพัฒนานวัตกรรมจากสหรัฐอเมริกา มากกว่า 50 ปี มีดีอย่างมากต่อการใช้งานการก่อสร้างป้องกันความร้อนได้ดีเยี่ยม ทนทาน และมีน้ำหนักเบา ช่วยประหยัดต้นทุนและที่สำคัญป้องกันความชื้นและการรั่วซึม ผนังกันความร้อนสำเร็จรูปถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ทั้ง ผนังพาร์ติชันภายใน ฝ้ายและเพดาน เป็นฉนวนโฟมกันความร้อนอย่างดี

คุณสมบัติโดดเด่นของการเลือกใช้ผนังกันความร้อนสำเร็จรูป
หลายท่านที่อยากเลือกซื้อ ผนังกันความร้อน ถือว่าได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งงานก่อสร้างอาคารหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นงานเพดานตอนนี้ก็ได้รับความนิยม และมีประโยชน์มากกว่าผนังแบบปกติ ที่ดีต่อการใช้งานสามารถที่จะใช้เป็นผนังกั้นห้องหรืองานก่อสร้างอาคารหลายประเภท เหมาะสำหรับการใช้ในหลายโครงการ เช่น โรงพยาบาล ร้านอาหาร โรงแรม โรงเรียน บ้านพัก โรงหนัง ห้องประชุม  ซึ่งมีประโยชน์และคุณสมบัติที่โดนเด่นอย่างมากในการเลือกใช้งาน




แผ่นผนังน้ำหนักเบา ติดตั้งงานติดตั้งรวดเร็วประหยัดเวลาช่วยลดขั้นตอนการก่อสร้าง
ไม่ลามไฟ และทนทานต่อไฟ
ผนัง SIP ลดรอยต่อระหว่างแผ่น ติดตั้งงาน ใช้ได้กับทุกโครงสร้างทั้งเหล็กและโครงสร้างคอนกรีต
ผนัง SIP มีค่าการต้านทานความร้อนสูงและมีประสิทธิภาพด้านการความร้อนได้ดีกว่างานก่อสร้าง
วัสดุมีความทนทานแต่มีน้ำหนักเบา ซึ่งเบากว่างานฉาบ และก่ออิฐทำให้ช่วยลดน้ำหนักของตัวอาคารลดขนาดเสาและคานลงได้ แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนาน และยังช่วยป้องกันปลวกได้อีกด้วย
สามารถที่จะรับน้ำหนักการเจาะยึดและแขวนน้ำหนักได้ถึง 42.6 กก./จุด
ช่วยลดค่าแรงในการติดตั้งช่วยลดการใช้พลังงานในตัวอาคาร ลดการนำความร้อนเข้าสู่อาคาร
ลดขยะเศษวัสดุจากหน้างานก่อสร้างเนื่องจากเป็นแผ่นสำเร็จรูปป้องกันการซึมผ่านน้ำและพร้อมใช้งานโดยไม่ต้องตัดแต่งให้เกิดขยะและลดการเกิดฝุ่น
ช่วยย่นระยะเวลาในการติดตั้งเพียงไม่กี่ขั้นตอน
แน่นอนว่าการเลือกใช้งานแผ่นผนังกันความร้อนสำเร็จรูปในการใช้งานภายในตัวอาคาร แนะนำ ConTel SIP Panel ที่เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบันในการสร้างอาคารหลายประเภท และรองรับโครงสร้างทั้งคอนกรีต และรองรับโครงสร้างเหล็ก มีการติดตั้งเพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอน ลดปริมาณคน และลดการจำนวนเงินประหยัดเวลาในการติดตั้ง และยังมีน้ำหนักที่เบารองรับได้มาตรฐานที่ติดตั้งประกอบง่าย

1.ทำการติดตั้งโครงเหล็ก C ที่พื้นตามแนวผนัง

2.ทำการใช้คนยกแผ่นผนังสำเร็จรูปเสียบเข้าที่โครงเหล็ก C ที่ติดตั้ง โดยทำการเริ่มจากฝั่งด้านในริมสุด3.ทำการติดตั้งโครงเหล็ก C ในร่องผนังสำเร็จรูปชิ้นแรกที่ติดตั้งเสร็จแล้ว พร้อมทำการยึดด้วยสกรู

4.ทำการยกผนังชิ้นต่อไป ไปเสียบเข้าร่องตัว C ด้านข้างของแผ่นผนังสำเร็จรูปที่ติดตั้งแล้ว

5.ฉาบผิวบางเพื่อเก็บรอยต่อระหว่างแผ่นและหัวสกรูโดยที่ไม่ต้องทำการฉาบทั้งผนัง



ติดต่อสอบถามและสั่งซื้อได้ที่:
เบอร์โทรศัพท์: 099 417 9442
ไลน์: @contelsip

แหล่งอ้างอิง : https://contelhome.com/sandwichpanel/

ConTel SIP : เพราะเราเข้าใจความต้องการของคุณ
หน้า: 1 ... 8 9 [10]
ลงประกาศฟรี ติดอันดับ Google โฆษณาฟรี ประกาศฟรี ขายฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว ลงโฆษณาฟรี google